ลา บายาแดร์
ลา บายาแดร์

ลา บายาแดร์

ลา บายาแดร์ (ฝรั่งเศส: La Bayadère, รัสเซีย: Баядерка - Bayaderka แปลว่า นางระบำ) เป็นบัลเลต์ความยาว 3 องก์[1] ที่ออกแบบท่าเต้นและแต่งบทโดยมาริอุส เปติปา ชาวฝรั่งเศส ประกอบดนตรีของลุดวิจ มินคุส คีตกวีชาวออสเตรีย [2] เปิดแสดงครั้งแรกที่โรงอุปรากร Bolshoi Kamenny Theatre กรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1877 โดยคณะอิมพีเรียลบัลเล่ต์ [3] เป็นบัลเลต์ที่มีกลิ่นอายของวัฒนธรรมอินเดีย โดยมีเครื่องประกอบฉากและเครื่องแต่งกายอย่างอลังการ โดยเฉพาะฉากหนึ่งที่มีชื่อว่า "อาณาจักรแห่งเงามืด" (The Kingdom of the Shades) ที่บางครั้งอาจถูกตัดออกมาจัดแสดงเฉพาะฉากนี้ฉากเดียว [4]เนื้อเรื่องเกิดขึ้นในราชสำนักอินเดีย นักรบหนุ่มชื่อ โซลอร์ มีความรักอยู่กับนางรำประจำวิหารพราหมณ์ (ภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า La Bayadère) ชื่อ นิกิยา ผู้ซึ่งมีความงดงามเป็นที่ต้องตาพระครูพราหมิน หัวหน้านักบวช ในขณะเดียวกันมหาราชาดักมานตา ก็ชื่นชมความกล้าหาญของโซลอร์ และหมายมั่นจะให้โซลอร์อภิเษกกับเจ้าหญิงกัมซัตติ พระราชธิดาโซลอร์เคยสาบานกับนิกิยาว่าจะรักกันตลอดไป แต่เขากลับผิดคำสาบานและไปอภิเษกกับเจ้าหญิง นิกิยาถูกวางตัวเป็นนางระบำในพิธีอภิเษก เมื่อนิกิยาทราบว่าเป็นเจ้าหญิงขณะที่จะเข้าพิธีอภิเษกกับโซลอร์ เธอจึงบรรดาลโทสะจนเกือบจะทำร้ายเจ้าหญิง ในงานพิธิอภิเษก นิกิยาเต้นระบำด้วยความปวดร้าวที่ถูกโซลอร์หักหลัง แต่เมื่อได้รับกระเช้าดอกไม้ที่มหาราชากับเจ้าหญิงจัดส่งมาให้ เธอเข้าใจผิดว่าเป็นดอกไม้ที่โซลอร์ส่งมา ด้วยความตื้นตันใจเธอให้อภัยโซลอร์ในที่สุด นิกิยาถูกงูพิษที่ซ่อนมาในกระเช้าฉกกัดที่คอและมีอาการสาหัสจนถึงชีวิต พราหมินเสนอจะมอบยาถอนพิษให้ แลกกับความรักจากนิกิยา แต่นิกิยาปฏิเสธและยืนยันที่จะยอมตายด้วยรักที่มั่นคง ด้วยความสำนึกผิด โซลอร์รู้สึกเศร้าโศกและสูบฝิ่นจนเกิดอาการประสาทหลอน เห็นภาพนิมิตของนิกิยาสถิตย์อยู่ใน "อาณาจักรแห่งเงามืด" บนยอดเขาหิมาลัย เขาสวดมนต์อ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้า และถูกลงโทษโดยถูกฟ้าผ่าที่หน้าวิหาร ตายตามนิกิยาไป